Dwayne Johnson หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Rock ออกมายืนยันว่า เขาจะไม่กลับมาร่วมแสดงในหนัง 2 ภาคสุดท้ายอย่างเรื่อง Fast & Furious ภาค 10 และ ภาค 10 Part 2 หรือ Fast & Furious 11 ที่ตอนนี้ได้วางคิวฉายภาคที่ 10 ไว้แล้ว โดยจะเข้าฉายในเดือนเมษายน 2023 ซึ่งนักแสดง Dwayne Johnson ได้เข้าร่วมแสดงในแฟรนไชส์หนัง Fast & Furious เรื่องแรกก็คือในหนังภาค Fast Five ในฐานะตัวละคร Luke Hobbs แห่งหน่วยงานความมั่นคงทางการทูตสหรัฐ นับตั้งแต่ได้รับการเปิดตัวในแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ ตัวละคร Luke Hobbs ได้กลายเป็นสมาชิกคนสำคัญคนหนึ่งในครอบครัวของ Dominic Toretto ในขณะเดียวกันตัวละคร Luke Hobbs เองก็ได้มีหนังเดี่ยวแยกออกมาเป็นของตัวเอง ในหนังที่มีชื่อเรื่องว่า Hobbs & Shaw ที่เข้าฉายไปในปี 2019
เมื่อปี 2016 ก่อนที่หนัง The Fate of the Furious ซึ่งเป็นหนังภาคที่ 8 ในแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ ทางDwayne Johnson ได้ทำการโพสต์ภาพพร้อมข้อความใน IG ส่วนตัวของเขาว่า
“บางคนแสดงตัวเป็นมืออาชีพ ในขณะที่คนอื่นไม่ใช่ และดูเหมือนจะขี้ขลาดเกินกว่าจะจัดการปัญหาได้ เมื่อตอนที่ชมภาพยนตร์ในเดือนเมษายนี้ จะดูเหมือนว่าผมไม่ได้แสดงในบางฉาก และเลือดในตัวผมเดือดพล่านมากตอนนี้”
ซึ่งคำพูดดังกล่าวเป็นการกล่าวอ้างถึงความไม่เป็นมืออาชีพของนักแสดงหรือทีมงานบางคน ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้ Dwayne Johnson ต้องออกไปจากแฟรนไชส์นี้ ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งในภาคแยกอย่าง Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw ที่เข้าฉายในปี 2019 ที่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ในระดับน่าพึงพอใจ
ต่อมา Dwayne Johnson ได้ไปโปรโมตหนังแอ็กชันผจญภัยเรื่องล่าสุดของอย่าง Jungle Cruise ของ Disney โดยเขาได้ใหัสัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter ว่า
“ผมหวังว่าพวกเขาจะไปได้ดีกับ Fast 9 และขอให้พวกเขาโชคดีกับ Fast 10 และ Fast 11 และภาพยนตร์เรื่องต่อ ๆ ไปใน ‘Fast & Furious’ ที่จะเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีผม”
ถึงแม้ว่า Dwayne Johnson จะไม่ได้ปรากฏตัวร่วมกับสมาชิกในครอบครัว Fast & Furious ต่อไปแล้วในภาคที่ 10 และ 11 แต่เขาก็ได้เซ็นสัญญากลับมาแสดงนำในภาคต่อของ Hobbs & Shaw ที่แสดงร่วมกับ Jason Statham โดยตอนนี้ทางค่ายยังไม่ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ
อัพเดตข้อมูล : 30 ส.ค. 2564