Rurouni Kenshin
สำหรับใครที่สับสนว่าควรดู รูโรนิ เคนชิน ภาคไหนก่อน เรียงลำดับเรื่องราวจากไหนก่อน รับชมภาพยนตร์ รูโรนิ เคนชิน ได้ตามนี้เลย
- Rurouni Kenshin - August 2012
- Kyoto Inferno - August 2014
- The Legend Ends - September 2014
- The Final - June 2021
- The Beginning - July 2021
10 ปี กับการเดินทาง บัตโตไซ (ผู้เจนจบในเชิงดาบ) สู่ รูโรนิ เคนชินในปัจจุบัน กำกับการแสดงโดย Keishi Ōtomo ดัดแปลงมาจากการ์ตูนยอดฮิตของยุค 90 เรื่องราวกล่าวถึงเหตุการณ์ช่วงต้น ยุคเมจิของญี่ปุ่น ( ระหว่าง ค.ศ. 1868 - ค.ศ. 1912 ) ในช่วงหลังสิ้นสุดสงคราม ยุคบากูมัตสึ ( ระหว่างปี ค.ศ. 1853 - 1867)
ฮิมุระ เคนชิน อดีตซามูไร มือสังหารที่โด่งดังที่สุดแห่งยุค พยายามที่จะหันหลังให้กับอดีตจากมือสังหาร และปฏิญาณตนว่าจะไม่ฆ่าใครอีก โดยมีอาวุธคู่ใจคือ ดาบสลับคม ฮิมุระ เคนชิน ซามูไร ที่ส่วนของคมจะอยู่ที่สันดาบ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องพลั้งมือฆ่าใครได้อีก
รูโรนิ เคนชิน ออกเดินทางเร่ร่อนไปยังเมืองต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น คอยช่วยเหลือ ปกป้องผู้อ่อนแอ เพื่อเป็นการไถ่บาปที่ตัวเขาได้พรากชีวิตผู้คนไปมากมายในอดีต รูโรนิ เคนชิน ต้องพบกับเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ ที่จะเป็นบทพิสูจน์ความเชื่อที่ว่า สามารถปกป้องผู้คนได้ด้วยการละเว้นการฆ่า
สามารถรับชมได้ทางช่อง NETFLIX
" เนื้อหานี้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของภาพยนตร์ ในการสื่อสารที่มีประโยชน์โดยสังเขป และช่วยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ สนับสนุนให้รับชมภาพยนตร์ถูกลิขสิทธิ์เท่านั้น "
รายละเอียดแต่ละภาคในซีรีส์ภาพยนตร์ รูโรนิ เคนชิน :
1. Rurouni Kenshin (สิงหาคม 2012)
• ชื่อภาษาญี่ปุ่น: るろうに剣心
• ผู้กำกับ: Keishi Ōtomo
• นักแสดงนำ:
Takeru Satoh รับบทเป็น Himura Kenshin
Emi Takei รับบทเป็น Kamiya Kaoru
Munetaka Aoki รับบทเป็น Sagara Sanosuke
Yuu Aoi รับบทเป็น Megumi Takani
• เรื่องย่อ:
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการแนะนำตัวละครหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Himura Kenshin ซึ่งเป็นซามูไรที่เคยเป็นนักฆ่าชื่อดังในชื่อ "Battousai the Man-Slayer" ในยุคบากูมัตสึ แต่หลังจากสงครามยุติ เขาตัดสินใจไม่ฆ่าใครอีก และใช้ชีวิตเร่ร่อนช่วยเหลือผู้คน ในภาคนี้ เขาได้พบกับ Kamiya Kaoru และเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่โรงเรียนดาบของเธอ ในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับศัตรูเก่าที่ตามล่าตัวเขา
• หัวใจของเรื่อง : ภาคแรกนี้เน้นการปูพื้นตัวละครหลัก โดยเฉพาะตัวเอก Himura Kenshin และการเปิดเผยแนวทางชีวิตใหม่ของเขาที่เต็มไปด้วยการไถ่บาปในฐานะซามูไรที่เคยเป็นนักฆ่า ภาพยนตร์สำรวจจุดเริ่มต้นที่เขาตัดสินใจเลิกฆ่าและเปลี่ยนตัวเองให้เป็น "นักดาบพเนจร" ที่ช่วยเหลือผู้คนด้วยคำมั่นว่าจะไม่ปลิดชีพใครอีก
• ไฮไลต์:
การพบกันระหว่าง Kenshin และ Kaoru ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพ และความสัมพันธ์สำคัญ
ฉากแอ็กชันที่โดดเด่น เช่น การต่อสู้ด้วยดาบสไตล์บูชิโดที่เน้นท่วงท่าสวยงาม
การเผชิญหน้ากับศัตรูที่สะท้อนถึงอดีตของ Kenshin และความพยายามหนีจากเงาในอดีตของเขา
2. Kyoto Inferno (สิงหาคม 2014)
• ชื่อภาษาญี่ปุ่น: るろうに剣心 京都大火
• ผู้กำกับ: Keishi Ōtomo
• นักแสดงนำ: นักแสดงจากภาคแรกกลับมาทั้งหมด พร้อมด้วยนักแสดงใหม่เช่น Tatsuya Fujiwara รับบทเป็น Shishio Makoto
• เรื่องย่อ:
ภาคนี้เป็นการต่อเนื่องจากภาคแรก โดย Kenshin ต้องเดินทางไปเกียวโตเพื่อหยุดยั้ง Shishio Makoto ซึ่งเป็นอดีตนักฆ่าที่รอดชีวิตจากการถูกเผาทิ้ง และตอนนี้ต้องการล้มล้างรัฐบาลใหม่ของยุคเมจิ ภาคนี้มีฉากแอ็คชั่นและการต่อสู้ระดับสูงมากมาย
• หัวใจของเรื่อง : เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ครั้งใหญ่เมื่อ Shishio Makoto ซึ่งเป็นนักฆ่าที่ถูกทรยศโดยรัฐบาลยุคใหม่ กลับมาท้าทายระบอบการปกครองเพื่อแก้แค้น การเดินทางของ Kenshin สู่เกียวโตเพื่อหยุดยั้ง Shishio ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องราว
• ไฮไลต์ :
Shishio Makoto เป็นหนึ่งในวายร้ายที่โดดเด่นที่สุดในซีรีส์ ทั้งในด้านพลัง การวางแผน และแรงผลักดันส่วนตัว
ฉากต่อสู้ในเกียวโตที่อลังการและเข้มข้น โดยเฉพาะฉากการต่อสู้ระหว่าง Kenshin และนักสู้ของ Shishio
พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง Kenshin และ Kaoru รวมถึงการเปิดเผยความเสียสละของ Kenshin ในการปกป้องโลกที่เขาเชื่อมั่น
3. The Legend Ends (กันยายน 2014)
• ชื่อภาษาญี่ปุ่น: るろうに剣心 伝説の最期
• ผู้กำกับ: Keishi Ōtomo
• นักแสดงนำ: เดิมจากภาคก่อนๆ
• เรื่องย่อ :
ภาคนี้ต่อเนื่องจาก "Kyoto Inferno" โดย Kenshin จะต้องเผชิญหน้ากับ Shishio ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่ตัดสินชะตากรรมของญี่ปุ่น มีการเปิดเผยความลับเกี่ยวกับอดีตของ Kenshin และการต่อสู้ที่ต้องใช้ทักษะสูงสุดของเขา
• หัวใจของเรื่อง : เป็นจุดไคลแม็กซ์ของการต่อสู้ระหว่าง Kenshin และ Shishio ซึ่งเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างสองซามูไรที่มีอุดมการณ์แตกต่างกัน ภาคนี้เต็มไปด้วยการสะท้อนแนวคิดเรื่องความยุติธรรม ความเสียสละ และการเผชิญหน้ากับอดีต
• ไฮไลต์ :
การฝึกฝนครั้งสุดท้ายของ Kenshin เพื่อยกระดับทักษะดาบของเขา (Hiten Mitsurugi-ryu)
ฉากการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่าง Kenshin และ Shishio ซึ่งถือว่าเป็นจุดพีคของทั้งเรื่อง
การเน้นถึงความสำคัญของการไถ่บาปในอดีตของ Kenshin และความเป็นผู้นำที่แท้จริงในยุคใหม่
4. The Final (มิถุนายน 2021)
• ชื่อภาษาญี่ปุ่น: るろうに剣心 最終章 The Final
• ผู้กำกับ: Keishi Ōtomo
• นักแสดงนำ: นักแสดงหลักยังคงเดิม พร้อมนักแสดงใหม่
• เรื่องย่อ :
ภาพยนตร์ภาคนี้เป็นการนำเสนอเรื่องราวของ Kenshin ที่ต้องเผชิญกับศัตรูใหม่ที่มีชื่อว่า Enishi Yukishiro ซึ่งเป็นน้องชายของ Tomoe Yukishiro คนรักเก่าของ Kenshin ที่ถูกเขาฆ่าตาย ภาคนี้เป็นการปิดฉากของเรื่องราวหลักในช่วงสมัยเมจิ
• หัวใจของเรื่อง : ภาคนี้เปลี่ยนโฟกัสจากศัตรูของรัฐบาลไปสู่ความสัมพันธ์ส่วนตัวของ Kenshin โดยเฉพาะเรื่องของ Enishi Yukishiro ศัตรูใหม่ที่มีแรงจูงใจส่วนตัวอย่างลึกซึ้งกับ Kenshin ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตายของ Tomoe Yukishiro ภรรยาในอดีตของ Kenshin
• ไฮไลต์ :
การปรากฏตัวของ Enishi Yukishiro และการเปิดเผยเรื่องราวของ Tomoe Yukishiro ซึ่งเป็นอดีตที่ตามหลอกหลอน Kenshin มาโดยตลอด
ฉากต่อสู้ที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความดราม่า โดยเฉพาะการปะทะครั้งสุดท้ายระหว่าง Kenshin และ Enishi
ภาคนี้เน้นไปที่การปิดฉากเรื่องราวของ Kenshin ในยุคเมจิ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการไถ่บาปและการก้าวข้ามอดีตของเขา
5. The Beginning (กรกฎาคม 2021)
• ชื่อภาษาญี่ปุ่น: るろうに剣心 最終章 The Beginning
• ผู้กำกับ: Keishi Ōtomo
• นักแสดงนำ: Takeru Satoh, Kasumi Arimura (รับบท Tomoe Yukishiro)
• เรื่องย่อ :
เป็นการย้อนกลับไปเล่าเรื่องราวของ Kenshin ในช่วงเวลาที่เขาเป็น Battousai the Man-Slayer โดยเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ Tomoe Yukishiro และเหตุการณ์ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาจากนักฆ่าเป็นซามูไรที่ไม่ฆ่าใครอีก
• หัวใจของเรื่อง : ภาคนี้ย้อนกลับไปในอดีตก่อนเหตุการณ์ในภาคแรก โดยเล่าเรื่องราวของ Kenshin ในช่วงที่เขายังเป็น Battousai the Man-Slayer และชีวิตของเขาในฐานะนักฆ่าที่ไม่มีความเมตตา รวมถึงความสัมพันธ์กับ Tomoe ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของ Kenshin
• ไฮไลต์ :
การเล่าเรื่องที่เน้นความเจ็บปวด และความเศร้าของ Kenshin ในอดีต
ความสัมพันธ์ระหว่าง Kenshin และ Tomoe ซึ่งสะท้อนถึงความสูญเสีย และความรักที่เปลี่ยนชีวิต Kenshin
ฉากต่อสู้ที่แสดงให้เห็นถึงด้านมืดของ Kenshin ในฐานะนักฆ่าที่โหดเหี้ยม
การเปิดเผยที่มาของรอยแผลเป็นรูปกากบาทบนแก้มของ Kenshin ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญในเรื่องราวทั้งหมด
• สรุป :
ซีรีส์ "รูโรนิ เคนชิน" เป็นมากกว่าแค่ภาพยนตร์แอ็กชันเกี่ยวกับซามูไร แต่ยังสำรวจเรื่องราวของความรัก การไถ่บาป และการเปลี่ยนแปลงตัวเองในยุคแห่งความวุ่นวายของญี่ปุ่น ภาพยนตร์แต่ละภาคนำเสนอประเด็น และอารมณ์ที่แตกต่างกัน แต่เมื่อรวมกันแล้ว สร้างเรื่องราวที่สมบูรณ์แบบสำหรับแฟน ๆ ของซีรีส์นี้ แต่ละภาคมีการพัฒนาตัวละคร และเรื่องราวที่ต่อเนื่องกัน ทำให้การดูตามลำดับเวลาจะช่วยให้เข้าใจเรื่องราวได้ดีขึ้น
#banksdollarsine | อัพเดตข้อมูล : 21 ม.ค. 2568 09:50 : 16315